ข่าวสารล่าสุด

เมื่อแผ่นดินไหวผ่านพ้นไป สิ่งสำคัญลำดับแรกคือการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านและข้าวของต่างๆภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย และเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับมาเป็นปกติอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำแนวทางการจัดการข้าวของที่เสียหายหลังแผ่นดินไหว ดังนี้

1. ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเข้าไปเก็บของ

ก่อนเข้าไปจัดการใดๆ ควรตรวจสอบว่าโครงสร้างของบ้านยังแข็งแรง ไม่มีรอยร้าวที่อาจพังถล่ม รวมถึงตรวจสอบไฟฟ้ารั่ว แก๊สรั่ว หรือสายไฟที่เสียหาย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาจเกิดตามมา ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบก่อนเสมอ

2. สวมอุปกรณ์ป้องกันตัว

เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง อย่าลืมสวมถุงมือ หน้ากากอนามัย และรองเท้าหุ้มข้อที่แข็งแรง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากเศษแก้ว โลหะ หรือวัสดุมีคมที่ตกกระจัดกระจายภายในบ้าน

3. แยกประเภทของที่เสียหาย

จัดการของที่เสียหายโดยแยกเป็นหมวดหมู่ การแยกของเช่นนี้จะช่วยให้จัดการต่อได้อย่างเป็นระบบ เช่น

· ของที่ยังใช้งานได้ : อาจเป็นของที่ตกหล่นแต่ไม่เสียหาย

· ของที่สามารถซ่อมได้ : เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่แตกแต่ยังสามารถประกอบใหม่ได้

· ของที่ต้องทิ้ง : เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียหายหรือเอกสารที่เปียกน้ำจนใช้การไม่ได้

4. กำจัดของเสียอย่างถูกวิธี

ของบางอย่างไม่สามารถทิ้งรวมกับขยะทั่วไปได้ เช่น แบตเตอรี่เก่า สี สารเคมี หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย ควรแยกนำไปทิ้งตามจุดทิ้งขยะอันตรายของหน่วยงานท้องถิ่น หรือศูนย์รับกำจัดขยะเฉพาะทาง เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คนในบริเวณใกล้เคียง

5. ทำความสะอาดพื้นที่

เมื่อแยกและเคลียร์ของเรียบร้อยแล้ว ควรทำความสะอาดพื้นและบริเวณโดยรอบ โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อ ถูพื้น กวาดฝุ่น และกำจัดเชื้อโรคที่อาจมาจากเศษซาก เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและถูกสุขอนามัย

6. ซ่อมแซมและจัดระเบียบใหม่

ของที่สามารถใช้งานได้หรือซ่อมได้ ควรนำมาจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ และอาจพิจารณาจัดหาที่เก็บของให้ปลอดภัยขึ้น เช่น เก็บในที่สูง ลดของแตกหัก หรือติดแถบรัดเฟอร์นิเจอร์กับผนัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำหากเกิดแผ่นดินไหวอีกในอนาคต

บทความอื่นๆ