ข่าวสารล่าสุด

2025.08.27

สุขภาพที่ดี

ยกของอย่างไรไม่ให้ปวดหลัง

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญถึงย้ำนักย้ำหนาว่าต้อง “งอเข่า” และ “รักษาหลังให้ตรง” เวลาจะยกของหนักๆ? คำแนะนำนี้ไม่ใช่แค่คำบอกเล่าปากต่อปาก แต่มีหลักการทางสรีรวิทยาที่สำคัญซ่อนอยู่ ซึ่งเมื่อคุณเข้าใจแล้ว จะช่วยให้คุณสามารถดูแลกระดูกสันหลังให้ปลอดภัยจากอาการบาดเจ็บได้อย่างแท้จริง

หัวใจหลักของร่างกายคือ กระดูกสันหลัง ซึ่งเปรียบเสมือนเสาหลักที่รองรับน้ำหนักและเป็นแกนกลางของการเคลื่อนไหว โดยมี หมอนรองกระดูก (Intervertebral Discs) คั่นอยู่ระหว่างข้อกระดูกแต่ละชิ้น ทำหน้าที่คล้าย “โช้กอัพ” ช่วยรองรับแรงกระแทกและกระจายน้ำหนักในทุกท่วงท่าของคุณ ตั้งแต่เดิน วิ่ง ไปจนถึงการยกของ

นอกจากนี้ กระดูกสันหลังยังทำงานร่วมกับ กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกบริเวณหน้าท้องและหลังส่วนล่าง กล้ามเนื้อเหล่านี้ทำหน้าที่คล้าย “เข็มขัดพยุงหลังตามธรรมชาติ” ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและพยุงกระดูกสันหลังให้แข็งแรงในทุกการเคลื่อนไหว การมีแกนกลางลำตัวที่แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี

ทำไมการก้มหลังถึงอันตราย?

เมื่อคุณยกของด้วยการก้มหลัง คุณกำลังใช้หลังเป็นจุดหมุนเพื่อดึงสิ่งของขึ้นมา ซึ่งเป็นการใช้กล้ามเนื้อหลังที่เล็กและอ่อนแอกว่ากล้ามเนื้อขา ซึ่งจะทำให้แรงกดมหาศาลไปรวมอยู่ที่ หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนล่าง ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ลองจินตนาการว่าคุณกำลังบีบหมอนรองกระดูกให้ปลิ้นออกมา หากยกของหนักมากพอหรือทำซ้ำๆ เป็นประจำ แรงกดนี้จะทำให้หมอนรองกระดูกฉีกขาดและปลิ้นไปกดทับเส้นประสาทได้ ซึ่งเป็นที่มาของอาการปวดหลังรุนแรง ชา หรืออ่อนแรงตามมา

เคล็ดลับการยกของอย่างถูกวิธี: เซฟหลังให้แข็งแรง

การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ การยกของที่ถูกต้องคือการปรับเปลี่ยนกลไกการรับน้ำหนักของร่างกายให้เหมาะสม โดยย้ายจุดหมุนจากหลังไปที่สะโพกและเข่าแทน

• ย่อเข่า การย่อเข่าจะช่วยให้คุณสามารถใช้พลังจากกล้ามเนื้อขา ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุดของร่างกายได้อย่างเต็มที่

• รักษาหลังให้ตรง การรักษาหลังให้ตรงตลอดเวลาจะช่วยกระจายน้ำหนักบนหมอนรองกระดูกได้อย่างเท่าเทียม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้อย่างมาก

นอกจากนี้ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวให้แข็งแรงอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณมี “เข็มขัดพยุงหลังตามธรรมชาติ” ที่พร้อมรับมือกับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

บทความอื่นๆ

• ผลกระทบของการยกของผิดท่าต่อร่างกาย

• ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คืออะไร?

• ฝุ่น PM 2.5 เกิดจากอะไร

 

 

 

 

 

Go to top