ข่าวสารล่าสุด
2025.11.12
KIKUYA บางจาก
ควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน?🛏️

เราใช้เวลาไปกับการนอนหลับประมาณหนึ่งในสามของชีวิต แต่คุณเคยหยุดคิดหรือไม่ว่า ที่นอนที่คุณใช้เวลาพักผ่อนยาวนานนั้น สกปรก และ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค มากกว่าที่คุณคิด?
การซักผ้าปูที่นอนไม่ได้เป็นเพียงแค่การกำจัดคราบสกปรกที่มองเห็น แต่เป็นการต่อสู้กับ ภัยเงียบ ที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพการหายใจและผิวหนังของคุณ มาดูกันว่า ความถี่ซักผ้าปูที่นอน ที่เหมาะสมที่สุดคือเท่าไหร่ เพื่อให้คุณนอนหลับได้เต็มอิ่มและห่างไกลจากอาการภูมิแพ้
ทำไมผ้าปูที่นอนจึงสกปรกเร็วกว่าที่คุณคิด?
แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ทุกคืนที่นอนหลับ ผ้าปูที่นอนของคุณจะสะสมสิ่งเหล่านี้ไว้มากมาย
▶︎ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Dead Skin Cells): เราผลัดเซลล์ผิววันละหลายล้านเซลล์ ซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของ ไรฝุ่น (Dust Mites)
▶︎ เหงื่อไคลและน้ำมันจากผิว: ความชื้นและน้ำมันจากผิวหนังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นยอดของแบคทีเรียและเชื้อรา
▶︎ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: สารเคมีจากครีมบำรุง, เครื่องสำอาง, หรือน้ำมันใส่ผมที่ติดอยู่บนปลอกหมอน
▶︎ ฝุ่นและมลภาวะจากภายนอก: สิ่งสกปรกที่เสื้อผ้าหรือเส้นผมนำเข้ามาในที่นอน
ควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน?
ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยส่วนใหญ่ ความถี่ที่เหมาะสมที่สุดในการซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนคืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (Every Week) การซักสัปดาห์ละครั้งช่วยให้คุณสามารถกำจัดไรฝุ่นและสิ่งสะสมต่างๆ ก่อนที่พวกมันจะขยายพันธุ์จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
สัญญาณเตือน! เมื่อไหร่ที่คุณ "ต้อง" ซักให้บ่อยขึ้น
ในบางกรณี หากคุณมีปัจจัยเหล่านี้ ควรซักผ้าปูที่นอนให้บ่อยขึ้นเป็น สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือทันทีที่เกิดเหตุการณ์
▶︎ คุณเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด: ต้องซักอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยเน้นการซักด้วยน้ำร้อนเพื่อฆ่าไรฝุ่น
▶︎ มีสัตว์เลี้ยงนอนบนเตียง: ขนสัตว์ รังแค และสิ่งสกปรกภายนอกทำให้ผ้าปูที่นอนสกปรกเร็วมาก
▶︎ มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน: ความชื้นสูงจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ควรซักบ่อยขึ้นเพื่อป้องกัน
▶︎ เพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วย: ควรซักทันทีที่หายป่วย เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจตกค้างอยู่บนผ้าปูที่นอน
▶︎ ไม่ได้อาบน้ำก่อนนอน: สิ่งสกปรกจากกิจกรรมนอกบ้านจะถูกถ่ายโอนสู่ที่นอนโดยตรง
การลงทุนเล็กน้อยในด้านเวลาเพื่อซักผ้าปูที่นอนอย่างถูกวิธี คือการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพผิว และคุณภาพการนอนหลับของคุณ
บทความอื่นๆ


