ข่าวสารล่าสุด

2025.08.10

สุขภาพที่ดี

ผลกระทบของการยกของผิดท่าต่อร่างกาย

การยกของผิดท่าสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ทั้งในระยะเฉียบพลันและระยะเรื้อรัง การใช้แรงอย่างรวดเร็วหรือ “กระชาก” ขณะยก อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังเกิดการอักเสบหรือฉีกขาดได้ทันที โดยมีอาการปวดตึงหรืออ่อนล้าเป็นสัญญาณเตือนแรก ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้ออ่อนล้าและตึงตัวเกินไป หากมีอาการปวดตื้อๆ เวลาเคลื่อนไหวหรือมีรอยฟกช้ำ บวมแดง อาจเป็นสัญญาณของอาการอักเสบที่ไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองในเวลา 2-3 วัน

อย่างไรก็ตาม การทำพฤติกรรมเสี่ยงซ้ำๆ เป็นประจำและต่อเนื่อง จะนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงยิ่งขึ้น ดังนี้:

• เอ็นหัวเข่าอักเสบ (Patellar Tendinitis): ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องยกของหนักเป็นประจำมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะนี้ เนื่องจากหัวเข่าต้องรับน้ำหนักมากเป็นพิเศษ อาการมักแสดงออกเป็นการปวดหัวเข่า โดยเฉพาะในขณะเคลื่อนไหว และอาจมีอาการบวมร่วมด้วย

• โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Herniated Disc): การก้มหลังและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ “บิดหรือเอี้ยวตัว” ขณะยกของหนัก เป็นพฤติกรรมที่อันตรายที่สุดและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หมอนรองกระดูกปลิ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีหมอนรองกระดูกเสื่อมอยู่แล้ว อาการที่ควรระวังคืออาการปวดหลังส่วนล่างที่ร้าวลงไปถึงขา หรืออาการปวดที่รุนแรงขึ้นเมื่อไอหรือจาม

นอกจากนี้ ปัญหาอาการปวดหลังที่เกี่ยวข้องกับการยกของไม่ได้เกิดขึ้นจากการยกของเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผลมาจากการสะสมพฤติกรรมผิดๆ ตลอดทั้งวัน เช่น การนั่งทำงานหลังค่อมนานๆ หรือการยืนนิ่งๆ ในท่าเดิมเป็นเวลานาน การมองข้ามพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอ่อนแอลงและไม่สามารถทำหน้าที่พยุงหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น อาการปวดหลังจากการยกของจึงอาจเป็นเพียงอาการสุดท้ายที่แสดงออกมาจากปัญหาที่สั่งสมมานาน การแก้ไขที่ยั่งยืนจึงต้องปรับปรุงอิริยาบถในทุกกิจกรรมของชีวิตประจำวันควบคู่ไปกับเทคนิคการยกของที่ถูกต้อง

บทความอื่นๆ

• ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คืออะไร?

• ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ

• ฝุ่นแต่ละขนาดส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร

 

 

 

 

 

Go to top